ตายแล้วไปไหน ?
เป็นคำถามที่หาคำตอบที่เป็นวิทยาศาสตร์ได้ยากมาก เพราะไม่สามารถอธิบายกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้
และไม่มีเครื่องมือไหนในโลกนี้สามารถตรวจสอบพิสูจน์ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นแนวทางในการค้นหาความจริงได้คือ การพิสูจน์ทางจิต เพราะร่างกายเราประกอบด้วยปัจจัย
สองส่วนคือกายกับจิต เมื่อกายหมดอายุขัยแล้ว กระบวนการทางจิตยังทำงานของมันต่อไป
ทางพุทธศาสนาเชื่อว่า คนเราเมื่อตายแล้ว สิ้นสภาพกายหยาบแล้ว จิตจะไปจุติใหม่หรือเกิดใหม่ทันที จะไป
เกิดที่ไหน อย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับกระแสจิตในขณะนั้นว่าตั้งอยู่ในอารมณ์ไหน ถ้ามีใจผ่องใสจิตก็จะบังเกิดในสุคติภพที่ดี แต่หากจิตใจเศร้าหมอง ก็จะไปบังเกิดที่ไม่ดี อาจ
จะเป็นสัตว์เดรัจฉาน หรืออสุรกาย ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับกรรมของตนเองว่าได้กระทำคุณงามความดีอะไรไว้บ้างขณะเกิดเป็นมนุษย์ หากมีความดีอยู่บ้างก็จะกลับมา
เป็นมนุษย์ หากทำกรรมชั่วร้ายแรงก็จะไปบังเกิดในภพเดรัจฉานเป็นสัตว์ เป็นต้น วิถีชีวิตของคนหรือสิ่งทีมีชีวิตที่มีวิญญาณก็จะเวียนว่าย ตายเกิดเช่นนี้
ฉะนั้นเมื่อเราเกิดเป็นมนุษย์จงรีบทำความดีเอาไว้ เพราะหลังจากตายจากโลกนี้ไปแล้ว ทรัพย์สิ่งของเงินทองมากมาย คนที่เรารัก สิ่งที่เป็นของเรา ไม่สารมารถนำติดตัวไป
ได้แม้แต่ชิ้นเดียว แต่สิ่งที่จะติดตามเราไปได้คือ คุณงามความดี ที่ทำจะตามส่งเราไปทุกภพทุกชาติเหมือนเงาตามตัว และจงตั้งความปราถนาเกิดชาติใดขอจงเกิดพบนักปราชญ์ เกิดพบพระพุทธศาสนา ได้ทำความดี จนถึงพระนิพพานไม่ต้องมาเกิดใหม่อีกเลย
lanna viengping
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น