ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเรา
พระพุทธเจ้าตรัสไว้เมื่อ 2,600ปีมาแล้ว ก่อนที่พระองค์จะเสด็จดับขันปรินิพพาน พระอานนท์ทูลถามว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หลังจากที่พระองค์ปรินิพพานไปแล้ว
พวกข้าพระองค์จะยึดอะไรเป็นที่พึ่ง หรือยึดถืออะไรเป็นตัวแทนของพระองค์ดีพระพุทธเจ้าข้า พระพุทธเจ้าตรัสตอบว่า ดูก่อนอานนท์ หลังจากตถาคตเสด็จดับขัน
ปรินิพพานไปแล้ว พระธรรม พระวินัย ที่เราสั่งสอนมาเป็นเวลา 45 พรรษานั้นแล จักเป็นที่พึงของเหล่าพุทธบริษัททั้งหลาย
ประเด็นคำถามที่ตั้งไว้เป็นหัวข้อใหญ่ว่า ไหว้พระ9วัดได้บุญจริงหรือไม่ คำตอบของพระพุทธเจ้าที่ตรัสตอบพระอานนท์ จึงเป็นคำตอบที่ตอบโจทย์ได้ดีที่สุด กล่าวคือ
การไปไหว้พระทำบุญ เพื่อให้เราได้บุญนั้น ได้บุญจริงแต่ไม่มาก เป็น อามิสบูชาบูชาพระพุทธเจ้าด้วยเครื่อง
สักการะบูชา เช่นธูป เทียน ดอกไม้ สังฆทานเป็นต้น แต่หากจะให้ได้บุญมากๆ และติดตัวเราไปทุกภพทุกชาติต้องเป็นบูชาลักษณะ ปฏิบัติบูชา บูชาด้วยการปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
คำสอนของพระพุทธเจ้าที่เราปฏิบัติตามได้ข้อไหน
คำสอนของพระพุทธเจ้ามีมากถึง 84,000 พระธรรมขันธ์ แต่ย่อให้สั้นแล้วเหลือ เพียง 3 ข้อ คือ
1. ศีล การรักษากาย วาจา ใจ ให้ปกติ ไม่ให้เบียดเบียนผู้อื่น ไม่ฆ่สัตว์ตัดชีวิต ไม่พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดให้ร้ายคนอื่น และใจไม่คิดอาฆาตร พยาบาทเบียดเบียนผู้อื่น ให้มีเมตตาแก่ทุกคน ควรปฏิบัติ ตามแค่ 3 ข้อก็ได้บุญมากที่สุดแล้ว
2. สมาธิ ให้มีความแน่วแน่ในการปฏิบัติธรรม หรือปฏิบัติหน้าที่ของตนให้สมบูรณ์ หมั่นนั่งสมาธิภาวนา เจริญสติ
เช่น นั่งสามาธิ หายใจเข้า นึกในใจว่า พทธ หายใจออก นึกในใจว่าโธ ปฎิบัติเช่นนี้เป็นนิจ ก็จะทำให้จิตใจเบิกบาน ละเสียได้ซึ่ง ความโลภ โกรธ หลง หรือทำให้กิเลสทั้งสามเบาบางลงได้
3. ปัญญา คือ การรู้แจ้งเห็นจริงในธรรมะ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่น
ปัญญาในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเฉพาะรู้เข้าใจธรรมะเพียงอย่างเดียว แต่หมายถึง รอบรู้ในสิ่งที่ควรรู้ เช่นรู้ว่า จะทำอย่างไรไม่ให้ยากจน จะทำอย่างไรไม่ให้ทำความชั่ว จะทำอย่างไรจะอยู่ในโลกปัจจุบันอย่างมีความสุขได้ เหล่านี้คือปัญญาที่พระองค์ประสงค์จะให้เกิดแก่ทุกคน
หากผู้ไปทำบุญ 9 วัดแล้ว และได้ปฎิบัติตามคำสั่งสอนของพระองค์ จึงเรียกว่า การทำบุญของท่านมีอานิสงส์หาที่สุดมิได้แท้แล
lanna viengping
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น